RO Flow Restrictor 400 S Flow จำกัดอัตราน้ำทิ้ง 300 ml/min
ในระบบการกรองน้ำแบบ RO (Reverse Osmosis) จะมีกระบวนการล้างเมมเบรน ซึ่งถ้าเราใส่ Flow น้ำทิ้งผิดขนาดแล้วก็จะทำให้สิ้นเปลืองโดยใช้เหตุ คือ
1.ถ้าเราเลือก Flow น้ำทิ้งขนาดน้อยกว่า ที่ระบบต้องการ ก็จะทำให้ ไส้กรองเมมเบรนอุดตันเร็ว
2.ถ้าเราเลือก Flow น้ำทิ้งขนาดมากกว่า ที่ระบบต้องการ ก็จะทำให้มีน้ำทิ้งมากเกินความจำเป็นแต่เมมเบรนก็จะเกิดการอุดตันช้า
แล้วที่ตัว Flow เขียนว่า 300 400 หรือ 550 คือ
300 คือ 300 cc /min ถ้า 24 hr. ก็จะมีน้ำทิ้งประมาณ 432 ลิตร หรือ ประมาณ 114 แกลอน
400 คือ 400 cc /min ถ้า 24 hr. ก็จะมีน้ำทิ้งประมาณ 576 ลิตร หรือ ประมาณ 152 แกลอน
550 คือ 550 cc /min ถ้า 24 hr. ก็จะมีน้ำทิ้งประมาณ 792 ลิตร หรือ ประมาณ 209 แกลอน
โดยประมาณแต่ไม่ต้องกังวลเนื่องจากเครื่องกรองน้ำไม่ได้ทำงานตลอดเวลาลองคำนวณปริมาณน้ำทิ้งนะครับ
สมมุติมีอยู่กัน 4 คนในบ้าน กินคนละ 2 ลิตร 4×2= 8 ลิตร
น้ำประปาราคาลิตรละไม่เกิน 2 สตางค์
ใน 1 วันจะเสียค่าน้ำที่ทิ้งแค่ 16 สตางค์ตกเดือนละ 30×16 = 480 สตางค์ หรือเท่ากับ ไม่เกิน 5บาท/เดือน
เอาให้มากๆ ก็แค่ 10บาท/เดือน สำหรับน้ำที่ถูกทิ้งไป ค่าน้ำประปาตามบ้านแพงเพราะ อุปโภค(อาบน้ำ ชักโครก ซักผ้า) มากกว่าบริโภคมากครับ
ดังนั้นข้อเสียเรื่องน้ำทิ้งจึงเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับ คุณภาพน้ำที่ได้ โดยสรุป ถ้าเราใช้อัตรา 1:2 เราสามารถเลือกใช้ Flow น้ำทิ้งได้ดังนี้คือ
FLOW 300 ใช้กับเมนเบรนขนาด 50 GPD
FLOW 400 ใช้กับเมนเบรนขนาด 100 GPD
FLOW 550 ใช้กับเมนเบรนขนาด 150 GPD
หมายเหตุ : จัดส่งทั่วประเทศ 50 บาท โดย Kerry Express 1-2 วันถึง